[OS GOT7] Countdown. #YUGMARK #BNIOR #JACKJAE
ลาทีปีเก่า สวัสดีคนใหม่.
ผู้เข้าชมรวม
2,638
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[OS GOT7] Countdown
ส่งท้ายคนเก่า ต้อนรับคนใหม่
เวิ่นได้ในแท็ก #ฟิคสวัสดีคนใหม่ เช่นเดิมนะคะ (ขี้เกียจเปลี่ยนแท็กงิ)
Title : Countdown ส่งท้ายคนเก่า ต้อนรับคนใหม่
Pairing : YUGMARK , BNIOR , JACKJAE [Ft. BAMBAM / JOEY / BOBBY]
Note : เป็น OS ที่รีไรท์มาจากภาคของ EXO เมื่อ 2 – 3 ปีก่อน อย่าหาสาระกับเรื่องนี้ มีแต่ความป่วงและบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักใดๆทั้งสิ้นค่ะ
31 DECEMBER 20XX
‘ เราเลิกกันเถอะ ’
คำสั้นๆแค่นี้ แต่กลับทำให้ คิมยูคยอม คนนี้ถึงขั้นจะลงไปนั่งทรุดกองกับพื้น ทำไม… ผมมันไม่ดีตรงไหน ทำไม โจอี้ ต้องทิ้งผม
“ทำไมล่ะโจอี้ บอกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันปรับปรุงตัวเพื่อนายได้เสมอนะ”
ร่างสูงเดินเข้าไปหาคนตรงหน้าช้าๆ พร้อมพูดขอร้อง ไม่ล่ะ… นายบอกฉันมาสิ ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงเพื่อนายได้ทุกอย่าง ขอร้อง อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ
“คือ…ฉัน… ฉันขอโทษ…”
โจอี้ได้แต่พูดตะกุกตะกัก ก่อนที่เขาจะวิ่งออกจากห้องพักของผมไป โดยไม่ได้บอกลาหรือบอกเหตุผลที่เราต้องเลิกกันซักคำ
ผมยอมรับ … ว่าผม ทำใจไม่ได้ !
XXXXXXXXXX
ก๊อก ก๊อก !
“บ็อบบี้ ฉันกลับมาแล้ว…”
มือของคนที่อยู่หน้าห้องเคาะประตูเรียกคนในห้อง แต่ดูเหมือนว่าจะไร้สัญญาณตอบรับใดๆ แต่ก็มั่นใจว่า บ็อบบี้ คนที่มีสถานะเป็นแฟนหนุ่มของเขายังอยู่ในห้องแน่นอน เพราะรองเท้าของเขายังคงอยู่ที่ชั้นวางรองเท้าหน้าห้อง
“บ็อบบี้ เปิดประตูให้ฉันหน่อยสิ”
ในเมื่อเคาะจนไม่รู้จะเคาะยังไง มาร์ค หรือ ต้วนอี้เอิน จึงตัดสินใจใช้กุญแจสำรองที่บ็อบบี้เคยให้ไว้ไขเข้าไป ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเงียบๆ สงสัยเมื่อคืนทำงานดึกแหงๆ เลยยังไม่ตื่นนอน
มาร์คเดินมาถึงส่วนที่เป็นห้องนอน ที่ประตูห้องยังปิดอยู่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ล็อกประตู ใจหนึ่งก็ไม่อยากเปิดเพราะกลัวรบกวน แต่นี่มันสิบโมงแล้ว อย่างน้อยก็ปลุกให้มากินข้าวหน่อยก็ยังดี
มือเล็กเรียวจับไปที่ลูกบิดประตูเบาๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่ ก่อนที่จะค่อยๆบิดช้าๆเพื่อไม่ให้มีเสียง หวังว่าจะพบเจ้าของห้องนอนอยู่ ซึ่งก็พบเจ้าของห้องนอนอยู่จริงๆ
แต่ติดที่ว่า ไม่ได้นอนอยู่คนเดียว แต่กลับนอนกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ !!
หลังจากพบภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ถึงสิบวินาที ความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าจนชาก็ลอยเข้ามาหามาร์ค รวมไปถึงใบหน้าร้อนผ่าว ดวงตาที่เริ่มมีน้ำใสๆขึ้นมาคลอ มือไม้สั่นกับภาพที่เห็นตรงหน้า
ไหนจะเสื้อผ้าที่มันกระจัดกระจายอยู่ที่พื้นนั่นอีก !!
“อือ…”
เสียงพึมพำของบ็อบบี้ที่กำลังนอนอยู่ดังขึ้นมาจากบนเตียง ก่อนที่เขาจะค่อยๆยันตัวเองขึ้นมาจากบนที่นอน
“ม…มาร์ค !!!”
บ็อบบี้ถึงกับสะดุ้ง และปฏิกิริยาที่สะลึมสะลือเมื่อกี๊หายไปทันที เมื่อพบกับคนตรงหน้าที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียง พร้อมจ้องมองมาที่เขากับผู้หญิงอีกคนที่กำลังนอนหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ตกใจที่เห็นฉันเหรอ ?”
“ม…ไม่ใช่นะมาร์ค”
“เห็นอยู่คาตาขนาดนี้ นายยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอ ?”
“มาร์ค คือ… ฉันขอโทษ…”
“เก็บคำขอโทษของนายไปใช้กับคนอื่นก็แล้วกัน แล้วเราก็จบกันแค่นี้ !!!”
มาร์คตัดใจพูดในคำที่เขาไม่อยากจะพูดอย่างเด็ดขาด ก่อนจะวางกุญแจห้องสำรอง พร้อมถอดแหวนวงหนึ่งบนนิ้ววางไว้คู่กับกุญแจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“มาร์ค !! รอเดี๋ยว มาร์ค !!!!”
ลาก่อนนะ บ็อบบี้ !
XXXXXXXXXX
“เฮ้ย ไอ้ยูคยอม มึงเป็นอะไรวะ หน้างี้ซึมเหมือนหมาโดนยาเบื่อ”
เสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความทะเล้นของ แจ็คสัน ดังขึ้นมาจากโต๊ะสนทนา โดยที่ยูคยอมเอาแต่นั่งซึมกะทือและเอาแต่นั่งเงียบ หลังจากที่เจ้าตัวโทรมาตามเขาให้ออกมาเจอที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
“โจอี้ขอเลิกกับฉันว่ะ…”
“หือ !! ว่าไงนะ !!”
“อือ… ตามนั้นแหละ แจ็คสัน ฉันไม่ดีตรงไหนวะ”
“…”
“หรือว่า ฉันสู้ไอ้ อ๊คแทคยอน นั่นไม่ได้ โจอี้เลยทิ้งฉันไปหาไอ้หมอนั่น !!”
“หือ อ๊คแทคยอนไหนวะ ?” แจ็คสันถาม
“ก็แค่ผู้ชายคนนึงในเกาหลี นักร้องวง 2PM เรียนจบที่อเมริกา ได้โทอิค 990 คะแนนเต็ม บ้านไม่รวยมาก มีกิจการแค่ 20% ของเกาหลีเองมึง แค่นั้นเอง !”
“เอ่อ… กูว่า กูไม่แปลกใจแล้วล่ะที่โจอี้จะทิ้งมึง ไอ้…”
แจ็คสันพูดพลางบีบไหล่เพื่อน แต่ในใจก็อนาถมันชิบหาย มึงสาธยายมาขนาดนี้แล้ว มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าทำไมเขาถึงทิ้งมึง ไอฟ้าย !! มึงกล้ามากที่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับอ๊คแทคยอน แม่มึงไม่สอนเหรอว่าให้เจียมเนื้อเจียมตัว ไอ้หมีอุ้งตีนไม่ได้มาตรฐาน !!!
“พอเลยมึง ถ้าช่วยกูไม่ได้ ก็อย่าซ้ำ !!”
“โอเคๆ กูขอโทษ” ถึงจะอย่างนั้น แจ็คสันก็อดสงสารเพื่อนรักไม่ได้อยู่ดี
“วันนึงมีตั้ง 365 วัน… ทำไมต้องมาบอกเลิกกูวันสิ้นปีด้วยวะ !”
น้ำเสียงหมดอาลัยตายอยากของยูคยอมทำให้แจ็คสันรู้สึกสงสารจนอยากจะถอดถุงเท้ายัดรูจมูกให้เพื่อนรักขาดใจตายรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่มันก็น่าเศร้าจริงๆ ถ้าสมมติว่าวันหนึ่งคุณถูกบอกเลิกในวันสิ้นปี วันที่คู่รักใฝ่ฝันอยากจะไปเคาท์ดาวน์ด้วยกัน…
“แหม่มึง อย่าเฮิร์ทๆ ถ้ามึงกลัวไม่มีคนไปฉลองด้วย ไม่ต้องห่วง มึงยังมี เพื่อน อย่างกูเสมอ…” แจ็คสันพูดก่อนจะฉีกยิ้ม ทำให้ยูคยอมเริ่มใจชื้น ขอบใจนะไอ้เพื่อนรักที่มึงไม่ทิ้งกู…
“ว่าแต่มึงจะไปฉลองที่ไหนกันวะ ?”
“ไปที่ IGOT7 PUB !” แจ็คสันพูดพร้อมชูสองนิ้วอย่างมาดมั่น เดี๋ยวนะ ! มึงจะไปฉลองที่ผับกันเหรอ !! แหม… ไม่ค่อยรักเพื่อนอย่างกูเลยว่ะ ก็รู้อยู่ว่ากูนี่พิศวาสผับนี้ขนาดไหน กูรักมึง แจ็คสัน /จูบเหม่งรัวๆ
“ว่าแต่เด็กมึงเขาจะยอมไปเหรอวะไอ้สั้น น้องเขาออกจะใสซื่อขนาดนั้น”
ยูคยอมพาดพิงถึงบุคคลที่สามที่มีสถานะเป็น “เด็ก” ในความดูแลของแจ็คสัน หรือถ้าให้เรียกภาษาบ้านๆก็ แฟน นั่นแหละ ส่วนไอ้ที่ว่าเด็กของไอ้สั้นใสซื่อขนาดไหนน่ะเหรอ ก็…
อินโนเซนท์ถึงขั้นที่ว่าใช้หลอดดูดเหล้า !!
เท่านั้นไม่พอ คุณน้องเขายังเข้าใจอีกว่า เวลากินเหล้าต้องเขย่าขวดก่อนกิน !!
บางที ชเวยองแจ เด็กมึงก็น่ารักมากไปนะไอ้แจ็คสัน -_______-+
“ไม่เป็นไร กูบอกน้องยองแจไปแล้วว่าจะพามาดูต้นคริสมาสต์ในผับ สีสันมันหลากหลายกว่าตามห้าง”
โถ… กูฟังแล้วสงสารน้องยองแจของมึงเหลือเกิน ช่างไปหลอกเขานะ ยิ่งไปกว่านั้น เด็กมันก็เชื่อง่ายเนอะ นี่ถามจริง ต้นคริสมาสต์ในผับต่างกับต้นคริสมาสต์ที่ห้างตรงไหน นอกจากมีโคโยตี้มายืนดิ้นข้างต้นไม้ ตอบ !!!
“เออ งั้นกูไปหาน้องยองแจละ คืนนี้เจอกันที่ IGOT7 PUB สองทุ่มนะมึง !”
แจ็คสันลุกขึ้นจากโต๊ะ ก่อนจะเดินออกจากร้านกาแฟไป ทำให้ตอนนี้เหลือแค่ยูคยอมนั่งดูดกาแฟนหน้าลอนในร้านเพียงลำพัง
บางทีกูก็ดีใจนะแจ็คสันหวัง ที่มึงยังไม่ทิ้งกู ถึงแม้ว่ามึงจะนัดเด็กของมึงไว้คืนนี้ แต่มึงก็ยังยอมให้กูไปเป็นก้างขวางคอพวกมึง กูนี่รักมึงยิ่งกว่าสโลแกนการบินไทย…
แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ…
ไอ้ห่า !! มึงรีบชิ่งออกไปแล้วปล่อยให้กูจ่ายค่ากาแฟให้มึงเนี่ยนะ !!
แจ็คสันหวัง กูขอสาปมึง !!!!!
XXXXXXXXXX
“ไม่เอานะมาร์ค หยุดร้องไห้ได้แล้ว แค่ผู้ชายคนเดียว นายจะสนใจทำไมเล่า !” เสียงของ ชเวยองแจ ดังขึ้น พร้อมกับหยิบทิชชู่ให้เพื่อนที่ตอนนี้เอาแต่นั่งร้องไห้จนตาบวมช้ำไปหมด
“ก็ฉันทำใจไม่ได้นี่…” คนที่นั่งร้องไห้อย่าง มาร์ค พูดออกมาด้วยเสียงที่ยากจะจับใจความ
“พอเลย เลิก ! ถ้านายไม่เลิก ฉันจะตีนายจริงๆด้วย”
“ฉันไม่ดีตรงไหนอ่ะยองแจ ทำไมบ็อบบี้ต้องนอกใจฉันด้วย ทำไม…”
“ไม่ใช่นายไม่ดีนะมาร์คอ่า… แต่บ็อบบี้นั่นแหละที่ไม่รู้จักพอ”
“ฮึก… ปีนึงมีตั้ง 365 วัน ทำไมพี่เขาต้องมาทิ้งฉันวันนี้ด้วยล่ะ”
“โอ๋ๆ ไม่เอานะเพื่อน งั้นคืนนี้ไปฉลองกับฉันก็แล้วกันนะ”
“แต่นายไปกับพี่สั้นไม่ใช่เหรอ ?”
“แล้วไงอ่ะ ไปกับพี่แจ็คสัน แต่ไม่จำเป็นว่าต้องทิ้งนายนี่”
อื้อหือ… ใครก็ได้ช่วยเปิดรับสมัครมิสเตอร์โคเรียทีเถอะ เดี๋ยวต้วนอี้เอินคนนี้จะจับชเวยองแจส่งเข้าประกวดเอง บางทีน้องยองแจคนดีศรีมกโพก็น่ารักมากไป
“เลิกร้องซะ คืนนี้เราจะไปเคาท์ดาวน์ด้วยกัน โอเคนะ ?”
“อื้อ…” มาร์คยิ้ม แต่ทิชชู่ยังคงถูกใช้ซับน้ำตาอยู่ดี
“หยุดร้องซะ ไม่งั้นฉันโกรธนายจริงๆด้วยนะ อย่าปล่อยให้คนๆเดียวมามีอิทธิพลในชีวิตนายสิมาร์ค”
“โอเคๆ…”
มาร์คพยายามหยุดร้องไห้ตามที่เพื่อนขอร้อง (แกมข่มขู่) แต่ในใจตอนนี้ไม่อยากจะรับรู้ ไม่อยากเจอใครทั้งสิ้น ติดที่ว่าตอนนี้ดันสัญญากับยองแจแล้วว่าจะออกไปฉลองปีใหม่ด้วยกัน จะถอนคำพูดก็ไม่ได้ ไม่งั้นโดนอีกคนโกรธตายชัก
เอาวะ… ไปดริ๊งค์ให้เมาแม่ง…
XXXXXXXXXX
20.00 h @ IGOT7 PUB
ตอนนี้คิมยูคยอมกำลังนั่งฟุบตัวอยู่ที่เลาจน์ แก้วเหล้าเล็กๆที่ว่างเปล่านับสิบใบถูกวางเรียงรายอยู่ตรงหน้า
ยูคยอมมาที่ผับนี้ตั้งแต่ 1 ทุ่มแล้ว หวังจะมาหาอะไรกินย้อมใจพอเป็นพิธี แต่พอนึกถึงใบหน้าของอดีตคนรักทีไร มันก็ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้อยากดื่มขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้าย ก็ต้องมานั่งเมาฟุบไม่ต่างจากไอ้ขี้เมาเท่าไหร่
“พี่ๆ เอาเหล้าอีกเปล่า ?” เสียงของบาร์เทนเดอร์คนหนึ่งดังขึ้น พร้อมทั้งสะกิดยูคยอมให้ตื่นจากฤทธิ์เหล้า
“พอก่อนน้อง พักก่อน”
“ไหวแน่นะพี่” บาร์เทนเดอร์หนุ่มถาม ยูคยอมจึงค่อยๆเงยหน้าไปหวังจะตอบ แต่ก็ต้องสะดุดกึกเมื่อเห็นหน้าของบาร์เทนเดอร์คนนั้น
หน้าเรียวเล็ก ปากนิด จมูกหน่อย บวกกับแก้มขาวเนียน โฮกกก !! น่ารักสรึด !!!
“น้องชาย ชื่อไรเหรอ ?”
“ถามผมเหรอ ?”
“จะให้พี่ถามแมวที่ไหนล่ะน้อง”
“ชื่อ แบมแบม ครับ…”
โฮกกกกก !! แบมแบม งั้นเหรอ น่ารักสรึด !! เอาใจเพ่ไปเลยน้อง หน้าตาก็ดูใสซื่อ แบบนี้ม่อไม่ยาก อริ๊…
‘ เฮ้ย !! ไอ้ยูคยอม !! ทำไมมาเมาปลิ้นตรงนี้วะ !! ’
เสียงของแจ็คสันดังขึ้นจากหน้าประตูผับ ก่อนที่ร่างสูงจะวิ่งเข้ามาตรงเลาจน์ที่เพื่อนตัวเองนั่งเมาแอ๋และเตรียมจะม่อบาร์เทนเดอร์อยู่ ให้ตายสิ ! โคตรมารเลยมึง ไอ้สั้น…
“อ้าว นั่นยูคยอมนี่ ?”
“อื้อ มันเพิ่งอกหักอยู่ ปล่อยมันไปก่อน” แจ็คสันหันไปพูดกับยองแจที่วิ่งตามหลังเขามาติดๆ
“มาแล้วเหรอไอ้แจ็คสันสั้นเก้ามิล…”
“ความจังไรของมึงนี่นะ… มึงมันเลว !”
“งือ…”
“อื้อหือ กลิ่นเหล้าคลุ้งเลยมึง ไปๆ ไปนั่งที่โต๊ะกับพวกกูละกัน พวกกูจองโต๊ะไว้แล้ว”
แจ็คสันพูด ก่อนจะช่วยกันกับยองแจหิ้วปีกยูคยอมที่เมาไม่รู้เรื่องรู้ราวมาที่โต๊ะหน้าเวทีที่เขาจองกันไว้ตั้งแต่แรก และนอกจากแจ็คสันกับยองแจแล้ว ก็ยังมีเพื่อนร่วมก๊วนของพวกเขาอีกประมาณสามสี่คนพอให้โต๊ะไม่เงียบเหงา
“ปล่อยให้มันนอนไปก่อนก็แล้วกัน ยองแจมานั่งเบาะนี้กับพี่ เดี๋ยวอีกเบาะให้เพื่อนๆคนอื่นกับเด็กของพวกมันนั่งไป”
“ยูคยอมจะไหวแน่เหรอฮะพี่แจ็คสัน ?” ยองแจถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นคนตัวสูงนอนแผ่บนโซฟาในสภาพเมาเละเทะ
“ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่มันเมาแล้วไม่อ้วก นั่นคือยังไม่ถึงจุดสุดยอดของการเมาของมัน”
“แล้วนี่เพื่อนของยองแจที่เล่าให้พี่ฟังมารึยังน่ะ ?”
“เดี๋ยวก็คงใกล้มาแล้วล่ะครับ นั่นไง พูดถึงก็มาพอดี มาร์ค ! ทางนี้ๆ”
ยองแจลุกขึ้นโบกไม้โบกมือให้คนที่ยืนอยู่หน้าประตู และทำให้ทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็น จุนฮเว เซฮุน ซองแจ หรือแม้กระทั่งแจ็คสันเองก็ถึงกับมองไม่วางตาเมื่อเห็นเพื่อนของยองแจกำลังเดินมาที่โต๊ะ
น่ารักชิบหาย…
“อันยองฮาเซโย” มาร์คโค้งทุกทายทุกคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว อื้อหือ … น่ารักครับน้อง สมกับที่เป็นเพื่อนยองแจ สมาคมดอกไม้บานมาเลยครับน้อง..
“อา… ครับๆ นั่งก่อนเลยครับ” จุนฮเวลุกขึ้นเสียสละที่นั่งให้คนมาใหม่ โดยที่มาร์คได้แต่ยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณเบาๆ แต่กลับทำให้ทุกคนบนโต๊ะถึงกับใจสั่นไปตามๆกัน
“ตามสบายเลยนะครับ น้อง…”
“เอ่อ… มาร์คครับ”
“ชื่อก็น่ารัก หน้าตาก็น่ารัก”
ให้ตายสิ อกหักทั้งทีต้องมาเที่ยวผับเนี่ยนะ นอกจากจะต้องมานั่งดูคนมีคู่อย่างแจ็คสันกับยองแจแล้ว ยังจะต้องมารบรากับไอ้พวกหน้าม่อขี้หลีพวกนี้อีก
กลับบ้านทันมั้ย !?!
“นั่งก่อนเลย กินอะไรมากันรึยัง ?” ซองแจถามทุกคนบนโต๊ะ พร้อมหยิบใบเมนูขึ้นมา
“น้องๆ สั่งอาหารหน่อย” แจ็คสันยกมือเรียกบริกรคนหนึ่งมาที่โต๊ะ
“ครับพี่ ?” บริกรหนุ่มเดินมาที่โต๊ะเพื่อรับออเดอร์
“เอา… แล้วก็ … อ่า พวกนายอยากกินอะไรกันมั้ย ? สั่งได้เลยนะ ยังไงก็แชร์กันจ่าย” เซฮุนถามทุกคนรอบโต๊ะ
“งั้นกูขอสปายขวดนึงละกัน…” แจ็คสันสั่ง
“สปายนี่รสชาติเป็นยังไงเหรอฮะพี่แจ็คสัน ?” ยองแจถาม
“หวานๆ เหมือนน้ำผลไม้ ลองมั้ย ?”
“เฮ้ย ! ไอ้แจ็คสัน มึงไปหลอกน้องเขาอย่างนั้นจะดีเหรอวะ ?” จุนฮเวกัดฟันถามโดยที่ไม่ให้ยองแจได้ยิน
“เขาอยากรู้ก็ต้องให้เขาลองสิมึง เรื่องแบบนี้มันต้องมีประสบการณ์” แจ็คสันพูดพร้อมยิ้มแป้นแล้น จนเพื่อนทุกคนอยากจะเอาถาดโบกหน้าสักทีให้สมกับความชั่วของเจ้าตัว
“ไอ้ยูคยอม มึงจะแดกไรเปล่า ?” แจ็คสันกระซิบถามเพื่อนร่างสูงที่เมาปลิ้นในตอนแรก ซึ่งตอนนี้เริ่มยันตัวขึ้นมานั่ง แต่ยังไม่สร่างเมาเท่าไหร่ มาร์คซึ่งนั่งอยู่ข้างๆได้แต่มองตามอย่างหวาดๆ
คนบ้าอะไรวะ เมาตั้งแต่หัววัน !
“เอาหงส์ทองมาขวดนึง…”
“เฮ้ย มึงจะแดกเหล้าต่ออีกเหรอไอ้ยูคยอม พอแล้วมั้ง”
“ช่างหัวกูเถอะ ไหนๆก็อกหักสิ้นปีแล้ว ขอทิ้งทวนหน่อยก็แล้วกัน”
“…”
“ว่าแต่ นี่บริกรเหรอวะ ? หน้าตาจิ้มลิ้มดี ฮ่าๆ”
ยูคยอมหันไปมองบริกรหนุ่มที่ยืนจดรายการอยู่ ส่วนบริกรหนุ่มก็ค้อนกลับมาเล็กน้อย พยายามคิดแง่ดีว่าไอ้บ้านี่มันพูดเพราะมันเมาหรอกนะ ถ้าไม่เมาพ่อจะเอาเก้าอี้ฟาดหัวแม่ง
ส่วนมาร์คเองก็พยายามนั่งขยับตัวไม่ให้เข้าใกล้ยูคยอมเกินสองเมตร (?) เพราะรู้สึกแปลกๆกับผู้ชายคนนี้จริงๆ อะไรของมันก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็เมา เดี๋ยวก็ม่อ น่ากลัว บรึ๋ยยยย !!
“ครับ ผมนี่แหละบริกร” บริกรหนุ่มตอบพร้อมทำหน้านิ่งใส่
“ชื่ออะไรเหรอคร้าบ ?” ยูคยอมถามบริกรหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้
“ชื่อ นิชคุณ ครับ”
“หน้าตาแบบนี้ยังไม่น่ามีแฟนนะ สนพี่เปล่าน้อง พี่ว่างนะ” ยูคยอมพูดออกไปแบบไม่คิดอะไร เพราะฤทธิ์ของเหล้า แต่นั่นกลับทำให้บริกรหนุ่มที่ชื่อ นิชคุณ ไม่พอใจอย่างแรง
“ขอโทษเหอะว่ะ ถึงผมจะหน้าตาแบบนี้อย่างที่คุณว่า แต่ผมมีแฟนแล้ว ชื่อ แบมแบม ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ คนที่ปลุกคุณเมื่อกี๊นี้นั่นแหละ แถมได้ข่าวว่าจะม่อแฟนผมด้วยนี่ ? นี่กินเหล้าจนเมาเพราะแฟนทิ้งอ่ะดิ เออ สมควรอยู่ ก็เพราะปากแม่งหมาแบบนี้ไง แฟนถึงทิ้ง อ้อ… ที่สำคัญผมอายุมากกว่าคุณด้วย จำไว้นะ !”
นิชคุณตอกกลับใส่ยูคยอมเป็นชุด พร้อมทั้งแนะนำแฟนของตัวเองแล้วชี้ไปทางเลาจน์ ทำให้บรรดาเพื่อนร่วมก๊วนของยูคยอม รวมไปถึงตัวของยูคยอมเองนั่งเงียบกริบกับคำด่าของ นิชคุณ บริกรปากจัด ก่อนที่บริกรหนุ่มจะเดินหยิบใบรายการสั่งอาหารออกไป
“จุกล่ะสิมึง” แจ็คสันแซว
“เออดิ ปากจัดชิบหาย”
“มาร์ค นั่งกับพวกเราไม่ต้องเกร็งนะ เต็มที่เลย ปลดปล่อยรับปีใหม่ !” ซองแจพยายามพูดเพื่อให้อีกคนหายเกร็ง เพราะมาร์คแทบไม่พูดอะไรตั้งแต่มานั่งที่นี่
“ค…ครับ” มาร์คฉีกยิ้มเล็กน้อย ส่วนยูคยอมก็แอบเหลือบไปมองพอเป็นพิธี แต่ว่า…
หน้าตาน่ารัก ตัวเล็กๆ ผิวขาว ใบหน้าดูเกลี้ยง แต่ติดนิดหน่อยตรงที่ขอบตาบวมช้ำ ดูซื่อๆนิ่งๆ อื้อหือ โดนใจเป็นบ้า !!
“มองตาค้างเลยนะมึงไอ้ยูคยอม !” แจ็คสันแอบกระซิบกับยูคยอมที่ตอนนี้มองอี้ชิงไม่วางตา
“น่ารักดีว่ะ”
“กูขอเตือน อย่าเพิ่งไปม่อ เขาเพิ่งอกหักมา สภาพเดียวกับมึงเด๊ะ !”
“จริงเหรอวะ ?”
“เออ…”
“อ้าว ! นั่น จินยอง นี่นา” เสียงของยองแจดังขึ้น ก่อนที่คนตัวเล็กจะหันกลับไปที่โต๊ะข้างๆ ดูเหมือนว่าจินยองจะเจอคนรู้จักเข้าให้แล้ว
โอ้โหเว้ยเฮ้ย !!!! ทั้งยองแจ ทั้งมาร์ค ไหนจะจินยองอะไรนั่นอีก แม่เว้ย !!! น่ารักยกแก๊ง ยอมใจจริงๆ /เสียงเพรียกจากหนุ่มๆโต๊ะสี่สีเขียวหน้าเวที
“อันยองยองแจ มายังไงเนี่ย” คนตัวเล็กผิวขาวที่หน้าตาค่อนข้างไปทางสวยราวกับผู้หญิง ยิ้มให้ก่อนจะถามที่มาที่ไป
“ฮ่าๆ มาฉลองกับเพื่อนๆน่ะ ว่าแต่นายมาคนเดียวเหรอ ?” ยองแจถามคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ
จริงๆแล้วยองแจก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอกว่าจินยองมาคนเดียวรึเปล่า เพราะตอนนี้โต๊ะข้างๆยองแจ หรือตัวที่จินยองนั่งเป็นโต๊ะกลมขนาดเล็กสำหรับนั่งสองคน แต่กลับกลายเป็นว่ามีจินยองนั่งอยู่คนเดียว และบนโต๊ะก็มีน้ำเปล่าเพียงขวดเดียว
“อื้ม…” จินยองฉีกยิ้ม
“มานั่งกับพวกฉันมั้ยล่ะ ? ยังมีที่ว่างเหลือนะ” ยองแจชักชวน
“ไม่เป็นไร รอพี่แจบอมอยู่”
“อ๋อ… ว่าแต่ นายไม่ได้มาพร้อมเขาเหรอ ?” ยองแจถามเมื่อได้ยินชื่อบุคคลที่ไม่ได้อยู่ ณ ที่นี้
“เปล่าหรอก เขาบอกให้ฉันมาเองน่ะ แต่พอมาก็ไม่เจอ กะว่าถ้าสามทุ่มยังไม่มา ฉันจะกลับบ้านแล้ว ไม่ค่อยอยากมานั่งในผับเลยอ่ะ มันแปลกๆ”
“ไม่มีใครฉุดหรอกน่า” ยองแจแซว อันที่จริงก็ใช่ว่าเขาจะคุ้นเคยกับที่แบบนี้เท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็ยังมีแจ็คสันกับมาร์คมาด้วย เลยทำให้สบายใจมากขึ้นเท่านั้นเอง
“คุยกับใครอยู่เหรอยองแจอา ?” แจ็คสันสะกิดคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆตัวเอง
“เพื่อนผมเองฮะ จินยองไง” ยองแจว่าพลางชี้ไปยังคนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านข้าง
“อ้าว น้องต่ายจู ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ” แจ็คสันสะดุ้งเมื่อเจอคนโต๊ะข้างๆ พร้อมทักด้วยสรรพนามแปลกๆ แต่เพราะคำว่า ‘น่ารัก’ ทำให้ยองแจหันไปค้อนใส่แฟนหนุ่มเล็กน้อย
“ตะกี้ชมเพื่อนผมว่าน่ารักเหรอฮะ จะม่อเพื่อนผมเหรอ ?”
“เปล่า แค่ชมเฉยๆน่า หึงไม่เข้าเรื่อง ยังไงน้องยองแจของพี่แจ็คสันก็น่ารักที่สุดแล้วล่ะค่ะ” แจ็คสันหัวเราะ ก่อนจะหยิกแก้มป่องๆของยองแจ
“โอ๊ย~ หมั่นไส้เว้ย !” เซฮุน จุนฮเว ซองแจ และยูคยอมพร้อมใจกันเบะปาก
“ว่าแต่ นายมาทำอะไรที่นี่เนี่ยจินยอง หน้าตาแบบนายไม่น่ามาที่แบบนี้นะ” แจ็คสันถามอีกคนต่อ
“พูดเหมือนฉันอยากมามากเลยนะ ฉันมาเพราะพี่แจบอมขอร้องต่างหากเล่า !”
“โอเคๆ นั่งคนเดียวไม่เหงาเหรอ ?”
“ไม่เป็นไร พี่แจบอมจองโต๊ะไว้น่ะ เดี๋ยวก็คงมา ฉลองให้สนุกเถอะ” จินยองพยักหน้าให้ ก่อนที่จะปิดฉากบทสนทนาข้ามโต๊ะ
‘ ตอนนี้เวลาสองทุ่มครึ่งแล้วนะครับทุกคน คืนนี้เราจะเคาท์ดาวน์พร้อมกันตอนเที่ยงคืนนะคร้าบ แต่ว่าตอนนี้ เรายังมีเวลามากพอที่จะมาแดนซ์ออนเดอะฟลอร์กันไปเลย ใครอยากเต้น อยากดิ้น อยากสนุก วิ่งมาเต้นหน้าเวทีได้เลยนะคร้าบ ! ’
เสียงของดีเจบนเวทีดังขึ้น ทำให้ผู้คนในผับจำนวนมากวิ่งมาออกันหน้าเวที ก่อนที่เพลงจะถูกเปิดขึ้น จังหวะสนุกสนาน บวกกับแสงสีเสียง ทำให้ทุกคนในพื้นที่ฟลอร์เต้นรำปลดปล่อยกันไม่ยั้ง
“พวกมึง กูอยากไปเต้นบ้างว่ะ” ซองแจเริ่มบทสนทนาเป็นคนแรก
“เอางั้นเหรอ ?”
“พี่แจ็คสัน ฟลอร์คืออะไรเหรอฮะ ?” แล้วก็เข้าสู่อีหรอบเดิมที่ยองแจคนใสใสจะหันไปถามพี่แจ็คสันผู้ช่ำชองเรื่องผับบาร์และอบายมุข
“ก็ลานเต้นทั่วไปนั่นแหละ ไปมั้ย ?”
“ไปๆ ยองแจอยากไป…” คนแก้มป่องพยักหน้ารัวๆเหมือนเด็กๆ
ตกลงนั่นแฟนหรือลูกมันวะ…
“นะๆ ไปกัน จินยอง มาร์ค ไปด้วยกันมั้ย ?” ยองแจอ้อนแจ็คสัน พลางหันไปถามเพื่อนที่นั่งหงอยเหงาอยู่ที่โต๊ะข้างๆ และเพื่อนอีกคนที่นั่งซึมอยู่โต๊ะเดียวกัน
“ไม่เป็นไร ฉันขอนั่งเฉยๆดีกว่า” คนที่เพิ่งอกหักมาหมาดๆส่ายหน้าเบาๆ ซึ่งยองแจก็ไม่ได้ตื๊อต่อเพราะพอจะเข้าใจอารมณ์ของเพื่อนดี
“ฉันไม่ถนัด ขอผ่านดีกว่า เดี๋ยวไม่มีคนเฝ้าโต๊ะด้วย” จินยองเองก็ปฏิเสธเช่นกัน
ทุกคนบนโต๊ะจึงพากันเดินออกไปที่ฟลอร์เพื่อร่วมสนุกในคืนวันสิ้นปี แสงสีเสียงรอบข้างที่ดูสนุกสนาน แต่กลับไม่ช่วยทำให้บรรยากาศบนโต๊ะๆหนึ่งที่มีคนอกหักอยู่สองคนให้ครื้นเครงได้เลยแม้แต่น้อย โต๊ะดังกล่าวที่มีคนอกหักนั่งอยู่สองคนนั้น ก็คงจะไม่พ้น…
คิมยูคยอม กับ ต้วนอี้เอิน
“…”
ผ่านไปสิบนาที บรรยากาศที่โต๊ะที่มีเพียงแค่สองคนยังคงเงียบ เงียบ และก็เงียบ จากนั้นความอึดอัดก็เริ่มแผ่มาปกคลุมระหว่างทั้งสองคน
“นี่ คุณชื่อไรอ่ะ ?” ยูคยอมที่ไม่อยากให้บรรยากาศเงียบมาก ยอมเปิดบทสนทนาก่อน
“ม…มาร์ค …”
“…”
“แล้วคุณอ่ะ ?” มาร์คพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อคุยต่อ เพราะไม่อยากทำให้ยูคยอมรู้สึกกร่อย
“ยูคยอม คิมยูคยอม…”
“…”
“คุณเพิ่งอกหักมาเหรอ ?”
“…”
“ผมถามแทงใจดำคุณป่ะเนี่ย”
“ไม่หรอก”
“…”
“แฟนผมมันนอกใจผม มันแอบไปนอนกับผู้หญิงคนนึง ผมก็เพิ่งเห็นเมื่อเช้านี้นี่แหละ…”
“เรานี่รันทดเหมือนกันเลยเนอะ อกหักวันสุดท้ายของปี”
“อ้าว คุณก็อกหักเหรอ ?”
“อือ… เพิ่งโดนแฟนบอกเลิกมาเมื่อเช้า”
“…”
“นี่ คุณ…”
“หือ ?”
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เรามาดื่มส่งท้ายให้ความอาภัพรักหน่อยดีมะ ?” ยูคยอมเริ่มหันไปชักชวนคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน
“ผมดื่มไม่เป็น” มาร์คปฏิเสธ
ฉันไม่ใช่พวกขี้เหล้าอย่างนายนะ !!
“เหล้ามันดื่มยากตรงไหน ก็แค่เทใส่แก้วแล้วกรอกเข้าปาก” ยูคยอมว่า
“…”
“แก้วนึงก็ยังดี ผมเลี้ยงเอง นะ”
“อือ ก็ได้…”
บางทีมาร์คก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องไปตอบรับคำชวนของอีกคนด้วย แต่บอกเลยว่าไม่ได้เห็นแก่ของฟรีนะ ก็ไอ้โย่งนั่นมันเล่นพูดว่าเหล้าดื่มไม่ยาก แค่เทใส่แก้วแล้วกรอกเข้าปากก็จบเนี่ย มันเหมือนท้าทายชัดๆ และเขายิ่งไม่ชอบยอมแพ้ใครอยู่ด้วย !
“จัดมาสองแก้วเลยน้อง !” จะหันไปปฏิเสธก็ไม่ทัน เพราะตอนนี้ยูคยอมหันไปสั่งเหล้าเรียบร้อยแล้ว
“…”
ผ่านไปไม่ถึงห้านาที เหล้าสองแก้วเพียวๆก็ถูกนำมาตั้งตรงหน้าทั้งคู่ มาร์คพยายามดมๆดูความแปลกของเหล้า มันมีดีตรงไหนวะ กินแล้วจะหายเจ็บจากอาการอกหักรึเปล่า หรือว่าทำให้ลืมคนรักเก่าได้วะ ?
“ชนกันหน่อยดิคุณ”
“ก็ได้…”
เป๊ง !
แก้วสองใบถูกกระทบกัน ถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดจากหน้าอกข้างซ้ายของทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ของเหลวใสในแก้วจะถูกกรอกเข้าปากของคนอกหักทั้งสองคน ที่พระเจ้าบันดาลให้มาอกหักพร้อมกันในวันสิ้นปี แล้วให้มานั่งดื่มฉลองด้วยกันในค่ำคืนนี้
“แหวะ ไม่เห็นจะอร่อยเลย… มึนหัวว่ะคุณ” มาร์ครีบวางแก้วเหล้าทันทีหลังจากที่กินไปจนหมด ก่อนจะนั่งกุมขมับเล็กน้อย
“นี่คุณไม่เคยกินจริงเหรอ ?”
“ไม่อ่ะ”
“อยากออกไปเต้นหน่อยมั้ย ?”’
“ไม่เอาล่ะ ขอนั่งเฉยๆดีกว่า ไม่มีอารมณ์ คุณนี่ก็แปลกเนอะ โดนแฟนทิ้งแต่ยังมีอารมณ์มาชวนคนนู้นคนนี้กินเหล้า แถมยังชวนไปเต้นต่อเนี่ย”
“แล้วจะให้ผมทำไงอ่ะ จะให้ผมนั่งซึมกะทือ นั่งร้องไห้ นั่งเฮิร์ท นั่ง ‘ปิดกั้นหัวใจ’ ตัวเองอย่างคุณน่ะเหรอ ไม่เอาอ่ะ อึดอัดตายชัก” ยูคยอมพูดพร้อมทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย
“นี่นายว่าฉันเหรอ !” มาร์คโวย พร้อมแอบเปลี่ยนสรรพนาม
“ผมพูดความจริงนะ”
‘ เอาล่ะครับ ตอนนี้เวลาผ่านไปสามทุ่มแล้ว เราจะมาพักเบรกเพลงแดนซ์กันก่อนนะครับ ตอนนี้เราจะกลับมาฟังเพลงอะคูสติก เพลงช้าๆ ผ่อนคลาย ให้อารมณ์โรแมนติกส่งท้ายปีบ้างดีกว่านะครับ ’
เพลงจังหวะแดนซ์ในผับถูกปิดลง ทำให้แจ็คสัน ยองแจ จุนฮเว ซองแจ และเซฮุน เดินกลับมานั่งที่โต๊ะในสภาพเหงื่อชุ่มตัว แหม… น่าอิจฉาโว้ย ปล่อยให้กูกับมาร์คนั่งเพ้อเรื่องอกหักกันอยู่สองคน ส่วนมึงๆคุณๆที่เหลือออกไปเต้นกันเนี่ย นึกถึงใจคน(เพิ่งจะ)โสดอย่างพวกกูบ้างสิเว้ย !!
อืม… ยูคยอมก็เป็นแค่คนกากๆคนหนึ่งที่คิดในใจเท่านั้นแหละ
“โฮย สนุกมากเลยพี่แจ็คสัน” ยองแจดูเหมือนจะยังติดลมอยู่
“ใช่มั้ยล่ะ เดี๋ยวพอจบเพลงอะคูสติกเดี๋ยวก็มีอีก ไว้ไปอีกก็แล้วกัน” แหม ไอ้แจ็คสัน ไอ้สั้น หน้าไม่ค่อยแป้นแล้นเลยนะมึง หลอกล่อเด็กสำเร็จไปอีกขั้นแล้ว
“นี่ วันนี้ใครจะมาร้องเพลงอะคูสติกวะแจ็คสัน” ซองแจหันไปถามแจ็คสัน ผู้ชายในก๊วนที่ดูจะรู้จักผับนี้ดีที่สุด ถามว่าไอ้แจ็คสันมันรู้ดีขนาดไหนน่ะเหรอ ?
ก็ตั้งแต่ผู้บริหารยันแม่บ้านแหละครับ นักดนตรี ช่างคุมไฟ บริกร บาร์เทนเดอร์ เด็กเสิร์ฟ นักร้อง มันรู้จักหมด !
“ไม่รู้สิ วันนี้พี่มินจุนไม่อยู่ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าใครจะมาร้องแทน”
‘ วันนี้ เนื่องจาก คิมมินจุน นักร้องประจำผับเราแอบหนีไปเที่ยว เราเลยไปขอให้นักกีตาร์ของผับเรามาร้องเพลงแทน ขอเชิญทุกคนฟังเพลงอะคูสติกจากนักกีตาร์ประจำ IGOT7 PUB อิมแจบอม ครับผม ! ’
“หือ ? อิมแจบอมเหรอ ??” ยองแจสะดุดกึกเมื่อได้ยินชื่อนักดนตรี ก่อนจะหันกลับไปที่โต๊ะของจินยองอีกครั้ง
“จินยอง !! ไหงพี่แจบอมแฟนนายมาร้องเพลงได้อ่ะ !”
“ฉันได้ยินพิธีกรประกาศชื่อฉันก็ยังงงๆอยู่เลยเนี่ย มันยังไงกันล่ะเนี่ย” จินยองพูดพลางทำหน้ามึนงงเช่นกัน
‘ อันยองฮาเซโยทุกคนครับ ผม อิมแจบอม มือกีจาร์ประจำ IGOT7 PUB ครับ เพิ่งมาร้องเพลงเป็นวันแรก ยังก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ’
เสียงของผู้ชายที่ชื่อ อิมแจบอม ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะขอเวลาจัดแจงพื้นที่บนเวทีแบบง่ายๆ เพียงแค่หยิบเก้าอี้มาหนึ่งตัว พร้อมยกกีตาร์โปร่งขึ้นมาตั้งท่าเตรียมจะดีด
“ย้า เท่ห์ชะมัด…” ยองแจมองตามพร้อมทำหน้าเคลิ้ม ทำให้แจ็คสันหันมาเหล่มองเล็กน้อย
“เฮอะ ฉันก็เล่นได้” แจ็คสันบ่นพร้อมทำหน้ามุ่ย
“ชู่ววว !”
‘ อ่า… จริงๆผมก็ร้องเพลงไม่ค่อยจะเป็นเท่าไหร่นะฮะ แต่… ผมก็อยากจะร้องเพลงความหมายดีให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ รวมไปถึงคนๆนึงที่เขายอมสละเวลามานั่งฟังผมด้วย ’
นายอิมแจบอมอะไรนั่นพูดขึ้น ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งโต๊ะข้างๆพวกเราอย่างปาร์คจินยอง โอ๊ย !! ขอร้อง อย่ามาสวีทหวานอะไรกันตอนนี้ได้มั้ย เห็นใจคนอกหักบ้างสิเว้ย เดี๋ยวคิมยูคยอมคนนี้ก็เหวี่ยงซะหรอก !
“พี่ !”
ยูคยอมตะโกนขึ้นมา ทำให้ทุกคนในผับหันไปจ้องเขาเป็นตาเดียว รวมไปถึงนายอิมแจบอมที่นั่งอยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน
“ครับน้อง ?” แจบอมถามมาจากบนเวทีโดยใช้ไมค์ช่วย
“ขอไรอย่างได้ป่ะครับ”
“ครับ ?”
“อย่าเล่นเพลงโรแมนติกได้มั้ยอ่ะพี่ ผมอยากได้เพลงแนวอกหัก” ยูคยอมรีเควสท์ไป
“ทำไมอ่ะน้อง ?” แจบอมถามกลับพร้อมสีหน้าที่ไปทางกวนๆเล็กน้อย
“พี่ เห็นใจคนอกหักนิดนึงดิ อย่าเพิ่งมาสวงสวีทอะไรตอนนี้ได้มั้ย”
“น้อง เห็นใจคนมีความรักนิดนึงดิ อย่ามาโลกแคบจะอะไรตอนนี้จะได้มั้ย”
แจบอมสวนกลับไปในทำนองเดียวกันกับยูคยอม ทำเอาร่างสูงถึงกับแทบลมจับ โอ้โหเว้ย !!! ทำขนาดนี้มึงเดินเอาฟันหน้ามาเฉาะหัวกูเลยมั้ย อื้อหือ มันจึ้กเลย มันจึ้กมาก อย่านะเหยิน แฟนคุณมึงนั่งอยู่โต๊ะข้างๆกูนะ เดี๋ยวกูจะไปลวนลาม เดี๋ยวก่อนเถอะ !!
‘ ไม่มีอะไรแล้ว งั้นต่อเลยนะครับ ผมจะขอร้องแค่เพลงเดียว ขอให้ตั้งใจฟังกันด้วยนะครับทุกคน จินยองอา~ ตั้งใจฟังพี่ด้วยนะ ’
จงแดพูดกับทุกคน พอถึงประโยคสุดท้าย เขาก็หันไปมองคนที่นั่งโต๊ะข้างๆที่ถึงจะนั่งคนเดียว แต่ก็ดูมีความสุขมากกว่าโต๊ะที่มีคนหลายคนนั่งด้วยกันซะอีก
“ครับพี่แจบอม !”
จินยองตะโกนกลับไป ทำให้บรรยากาศในผับดูซอฟต์ลงทันที ก่อนที่จะมีเสียงเฮตามมาดังสนั่น จนทั้งสองคนแทบจะลงไปอายม้วน
“ย้า จินยอง น่าอิจฉาไปแล้ว พี่แจบอมของนายน่ารักชะมัด !” ยองแจหันมาแซวจินยองที่ตอนนี้นั่งยิ้มแฉ่งหน้าบานจนเห็นตีนกาทะลุลิมิต ส่วนยูคยอมได้แต่นั่งหน้ามุ่ยอย่างเซ็งๆ บอกตรงๆ ตอนนี้กูหมั่นไส้คนมีความรัก !!
ตลอดเวลาสามนาทีที่นั่งฟังไอ้คุณอิมแจบอมอะไรนั่นดีดกีตาร์แล้วร้องเพลงไปมันช่างทรมานเสียจริงๆ ยิ่งหันไปเห็นคนที่ชื่อจินยองอะไรนั่นนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยิ่งทำให้คิมยูคยอมคนนี้วิ่งไปทุ่มกีตาร์ใส่ไอ้นักร้องบ้านั่นอีก หมั่นไส้เว้ย !!!!
‘ ขอบคุณทุกคนที่รับฟังนะครับ แล้วก็ขอบคุณน้องชายโลกแคบด้วยที่ทนฟังจนจบโดยไม่กรี๊ดแตกออกมาซะก่อน ขอให้หาแฟนใหม่ได้เร็วๆนะน้อง จินยองอา พี่จะลงไปหานายแล้วนะ พี่รักนายนะ ! ’
แจบอมพูดขอบคุณทุกคน ซึ่งนั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่มันทะลึ่งมาแซะผมอีกต่างหาก ชัดช้ะ !! ไอ้เหยินนี่ วอนหาเรื่องโดนตื้บมั้ยล่ะ แต่ที่น่าหมั่นไส้ที่สุด คือ ไอ้ตอนที่มันบอกว่ารักคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆนี่แหละ เป็นสิ่งที่น่าหมั่นไส้ที่สุด
บอกแล้วว่า ใครที่กำลังมีความรัก วันนี้แกจะโดนคิมยูคยอมผู้นี้นั่งสาปแช่งในใจ !!
‘ เอาล่ะ ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปจะสี่ทุ่มซะแล้ว ตอนนี้เราจะเปิดเพลงแบบจัดหนักไปจนถึงห้าทุ่มห้าสิบนาที แล้วเราจะมาฉลองพร้อมกัน โอเคมั้ยทุกคน ถ้าโอเคแล้วล่ะก็ Music Start !!! ’
พอดีเจประกาศจบ ทุกคนในโต๊ะก็รีบวิ่งออกไปประจำตำแหน่ง ทิ้งให้ยูคยอมกับมาร์คนั่งอยู่ด้วยกันตามลำพังอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้น่ารันทดกว่ารอบที่แล้ว ตรงที่ต้องมานั่งเห็นคนสองคนที่นั่งโต๊ะข้างๆอย่างไอ้บ้าอิมแจบอมนั่งสวีทกับปาร์คจินยองคนน่ารักนั่น
ใครก็ได้เอามีดมาแทงคิมยูคยอมที กูริษยา กูขี้อิจฉา กูอาฆาตมากในตอนนี้ !!
“คุณ กินน้ำหน่อยมั้ย ?” มาร์คถามคนที่กำลังทำตัวเป็นนางอิจฉา (?) พร้อมยื่นขวดน้ำเปล่ามาให้
“อือ ก็ดี”
“มัวแต่มานั่งริษยาคนอื่น จะได้อะไรขึ้นมา ?”
มาร์คขมวดคิ้วถาม ขอหน่อยเถอะนะ คือ… ฉันเห็นนายนั่งอาฆาตพยาบาททั้งพี่ชายนักกีตาร์ แล้วก็เห็นนายแอบหันไปมองพี่บริกรนิชคุณสุดหล่อที่ตอนนี้กำลังสะพายกระเป๋าออกจากผับไปกับบาร์เทนเดอร์แบมแบมที่เขาแนะนำแล้ว
“หมั่นไส้นี่…”
“เอาเวลาหมั่นไส้ ไปทำอะไรที่มีสาระดีกว่ามั้ยคุณ ?”
“นี่คุณว่าผมไร้สาระเหรอ ?”
“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ แค่บอกว่าให้ไปทำอะไรที่มันมีสาระ”
“คุณนี่พูดจาโดนใจผมจัง”
“หมายความว่าไง ?” มาร์คขมวดคิ้ว แกอย่ามาพูดชวนคิดลึกนะไอ้หมียักษ์
“เปล๊า !” ยูคยอมยักไหล่พร้อมพูดเสียงสูง
สนใจรับขนมตุ้บตั้บกับรองเท้าเบอร์ 43 เพิ่มมั้ยครับ ?
เวลาผ่านล่วงเลยไปเรื่อยๆ ทั้งสองคนนั่งคุยนั่งแชร์ความในใจที่รู้สึกอยู่ในตอนนี้ให้กันและกัน ทำให้ทั้งคู่เริ่มลืมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าได้อย่างรวดเร็วจนน่าประหลาด
“นี่ แล้วตอนที่คุณเห็นแฟนคุณนอนกับผู้หญิงคนอื่นอ่ะ คุณรู้สึกยังไง ?”
“…”
“เฮ้ย ! อย่าร้องไห้ดิคุณ !!”
ยูคยอมสะดุ้งเฮือก หลังจากที่เขายิงคำถามออกไป มาร์คไม่ได้ตอบคำถามเขากลับมา แต่กลับนั่งเช็ดน้ำตาจนยูคยอมได้แต่หนักใจ เฮ้ย !! ฉันไม่ได้ตั้งใจตอกย้ำนายนะ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ลืม…”
“ปากบอกลืม แต่มานั่งร้องไห้แบบนี้เนี่ยนะ”
“ใครมันจะตายด้านเหมือนคุณเล่า !”
“โอเค พอๆ ผมไม่เถียงคุณละ ออกไปนั่งข้างนอกกับผมมั้ย อยู่ในนี้มันร้อน เสียงดังด้วย เวลาคุณพูดผมไม่ค่อยได้ยิน”
“…”
“ไม่ตอบ แสดงว่าตกลง ป่ะ !”
ยูคยอมลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือคนที่นั่งซึมให้ออกไปข้างนอกผับด้วยกัน สาบานได้ว่าผมไม่ได้ม่อไอ้หมอนี่นะ แต่ผมไม่ชอบเห็นใครนั่งอมทุกข์ มันอึดอัด !
“เฮ่อ ค่อยยังชั่ว อากาศเย็นขึ้นเยอะ” ยูคยอมยืนบิดขี้เกียจหลังออกมายืนอยู่หน้าผับที่ตอนนี้มีเพียงแสงไฟข้างทางตัดกับดวงดาวบนท้องฟ้าที่ส่องแสงระยิบระยับ อีกทั้งลมพัดอ่อนๆในตอนนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศตอนนี้มันดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อ
“…”
“วันนี้ท้องฟ้าสวยดีเนอะคุณ” ยูคยอมพูดพร้อมชี้ไปบนท้องฟ้าที่มีดาวกระจายอยู่เต็มท้องฟ้า ทำให้มาร์คอดยิ้มไม่ได้ ไอ้บ้านี่มันก็ดีเหมือนกันนี่หว่า นึกว่าจะทำตัวเป็นไอ้ขี้เมาหน้าม่อไร้สาระไปวันๆ
“อือ…”
“เฮ้ย ! คุณทำอะไรของคุณ ?”
มาร์คตะโกนถาม หลังจากเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆตัวเองล้มตัวลงไปนอนแผ่กับพื้น ไม่อายคนเหรอไอ้โย่ง !!!
“นอนดูดาวไง ยังไงตรงนี้ก็ไม่มีใครแล้วนี่ ผมจะอายทำไมล่ะ”
“เออ จริงๆ” มาร์คหัวเราะ ก่อนจะลงไปนั่งข้างๆ
ทั้งคู่ปล่อยให้ความเงียบนั่งปกคลุมอีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น แต่สายตาทั้งสองคู่จับจ้องไปบนท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ มีดาวมากมายจนนับไม่ถ้วน ตามมาด้วยรอยยิ้มของคนที่เพิ่งจะอกหักมาหมาดๆ
‘ ตอนนี้ ได้เวลาเตรียมตัวสำหรับการเคาท์ดาวน์เข้าสู่วันปีใหม่แล้วนะครับ ขอให้ทุกคนที่อยู่ใน IGOT7 PUB มาร่วมกันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกันเลยครับ ’
“ไปเหอะคุณ ไปนับถอยหลังส่งท้ายปีกัน” มาร์คลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของพิธีกรด้านในประกาศให้สัญญาณ แล้วยื่นมือไปให้ร่างสูงที่นอนแผ่อยู่กับพื้น ยูคยอมมองอยู่ครู่หนึ่งด้วยความฉงน แต่ก็เอื้อมมือไปจับมือของมาร์คเพื่อดึงตัวเองขึ้นมา ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปในผับเพื่อไปหาเพื่อนๆ
“อ้าว ไอ้ยูคยอม มาร์ค ไปไหนมา ?” แจ็คสันถาม เมื่อเห็นทั้งคู่เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ
“ไปดูดาวมาเฉยๆ”
“มาๆ เอาไฟเย็นไปคนละแท่ง” เซฮุนจุดไฟใส่แท่งไฟเย็น ก่อนจะส่งให้ทั้งสองคน
“จะเริ่มยังวะ ?” ยูคยอมถาม
“เนี่ย อีกสามสิบวินาที”
“ย้า พี่แจ็คสัน ดูสิๆ !!” เสียงของยองแจดังขึ้น พร้อมทั้งหันไปสะกิดแจ็คสันให้ดูแท่งไฟเย็นของตัวเอง ตกลงนี่แฟนหรือลูกมันวะเนี่ย
“10…9…8…7…6…”
เสียงของทุกคนในผับเริ่มนับถอยหลังพร้อมกัน … วินาทีที่สิบ สิ่งที่ยูคยอมหันไปมองคือ ทุกคนในผับ วินาทีที่เก้า มองไปที่เลาจน์ วินาทีที่แปด มองไปที่คู่รักไอ้หนุ่มบริกรกับไอ้หนุ่มบาร์เทนเดอร์ที่นั่งอยู่ข้างหลังเขา วินาทีที่เจ็ด หันไปมองไอ้หนุ่มนักกีตาร์กับคนน่ารักคนนั้น วินาทีที่หก มองขึ้นไปบนเวทีที่มีพิธีกรยืนอยู่
5… ขอบคุณนะเพื่อนรักของกู หวังแจ็คสัน กูจุนฮเว โอเซฮุน และยูคซองแจ… ขอบคุณที่พวกมึงไม่เคยทิ้งกู รวมไปถึงชเวยองแจด้วยนะ
4… ขอให้นายโชคดีนะโจอี้
3 … ขอบคุณ เหล้า ที่ทำให้ลืมความเจ็บปวดได้ ถึงแม้จะแค่ชั่วคราว
2 … ขอบคุณแฟนเก่าของมาร์ค
1 … ที่ทิ้งเขาไป
HAPPY NEW YEAR !!!!
ขอบคุณมาร์ค ขอบคุณต้วนอี้เอิน ที่มาพร้อมกับวันปีใหม่ ขอบคุณที่ทำให้ผมลืมคนๆนั้นได้ ขอบคุณที่รับฟังปัญหา ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักกันได้แค่ไม่ถึงสี่ชั่วโมง
“สุขสันต์วันปีใหม่ ไชโย !!”
เสียงของทุกคนดังขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ไฟในผับทุกดวงจะดับลง และผู้คนค่อยๆทยอยกันออกจากผับ หมดกันที ลาทีปีเก่า !!
“กูไปก่อนนะ มึงกลับเองได้ใช่มั้ยยูคยอม ?” แจ็คสันถาม
“ไม่เป็นไร กูเอามอเตอร์ไซค์มา”
“คืนนี้มาร์คไปนอนบ้านฉันใช่มั้ย ถ้างั้นกลับพร้อมกันเลยก็แล้วกัน” ยองแจหันไปหามาร์คที่ยืนอยู่ข้างๆ
“แจ็คสัน มึงจะไปส่งยองแจกับมาร์คเลยใช่ป่ะ งั้นเดี๋ยวพวกกูไปต่อที่บ้านไอ้ซองแจนะ” จุนฮเวว่า ก่อนที่ทุกคนจะโบกมือลาแล้วเดินออกไป
“งั้นกูไปก่อนนะ” ยูคยอมอำลายองแจ แจ็คสัน และมาร์ค
“กลับดีๆนะยูคยอม” ทุกคนพยักหน้าพร้อมคำอำลา
ยูคยอมเดินออกไปจากจุดรวมกลุ่มเพื่อจะกลับบ้าน แต่ก็ดันหันไปเห็นมาร์คที่เอาแต่ยืนเงียบระหว่างรอส่งทุกคนกลับบ้าน ยูคยอมจึงตัดสินใจเดินวนกลับไปหามาร์คอีกครั้ง
“คุณ ขอบใจมากนะที่อยู่เป็นคุยกับผมวันนี้” ยูคยอมส่งยิ้มบางๆให้คนตัวเล็ก
“ผมก็ด้วย ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณคิมยูคยอม” มาร์คยิ้มน้อยๆ
“สุขสันต์วันปีใหม่นะคุณ ขอให้ชีวิตมีแต่สิ่งใหม่ๆเข้ามานะ”
“เช่นกันครับ”
“ลืมๆคนเก่าไปได้แล้วนะ ปีใหม่แล้ว เดี๋ยวคนใหม่ก็เข้ามา”
“เก็บไว้บอกตัวเองด้วยก็แล้วกัน” มาร์คยิ้มให้เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย
“แล้วก็…”
‘ ถ้าคุณพร้อมจะมีคนใหม่เมื่อไหร่ … ผมว่างเสมอนะ ’
… THE END …
เป็นความป่วงชั่ววูบที่หยิบฟิคเก่ามารีเมคใหม่
อากาศร้อนมาก ฮืออออออออ
จะขาดใจแล้ว ;____;)
ผลงานอื่นๆ ของ _getz7lady2 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ _getz7lady2
ความคิดเห็น